พื้นที่ผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่กรุงไทเปเวอร์ชั่นภาษาไทย

โลซาร์เป็นภาษาทิเบตความหมายคือ“ปีใหม่”เป็นหนึ่งในเทศกาลดั้งเดิมที่สำคัญที่สุดของชาวทิเบต ตามปฏิทินจันทรคติทิเบตกิจกรรมเฉลิมฉลองและอำนวยพรของชาวทิเบตเริ่มวันที่ 29 ธันวาคมเป็นเวลา15 วัน เวลาของวันขึ้นปีใหม่ทิเบตและวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติแบ่งเป็น3อย่าง：วันเดียวกัน ต่างกันหนึ่งวัน ต่างกันหนึ่งเดือน

วันที่29 เวลากลางคืนสมาชิกในครอบครัวจะนั่งรอบโต๊ะอาหารกิน“กูตู”ทำมาจากแป้งชนิดหนึ่ง(เหมือนพาสตา)ไส้ในจะมีขนสัตว์เป็นสัญลักษณ์ถึงความมีน้ำใจ เหรียญนำมาซึ่งความร่ำรวย และอื่นๆ แต่ละอย่างที่มีความหมายต่างกัน เป็นบททดสอบความโชคดีของครอบครัวในปีใหม่ จากนั้นผู้คนจำนวนมากจะออกจากบ้านไปร่วมพิธี“ขับไล่ปีศาจ”เป็นสัญลักษณ์ถึงการขับไล่ปีศาจและความโชคร้ายให้ออกไปจากบ้าน วันที่30จะทำความสะอาดบ้านเรือน ทาสีบ้าน ติดป้ายคำอวยพรที่ประตูบ้านและติดผ้าม่านใหม่ และจัดเตรียมเครื่องสักการะพระรัตนตรัยที่หอพระ

วันขึ้นปีใหม่วันแรก ตื่นเช้ามาเหล่าแม่บ้านจะทำชาเนยและข้าวมงคลร่วมรับประทานกับครอบครัว ในวันปีใหม่จะจุดธูปบูชาพระรัตนตรัยและตั้งตะเกียงน้ำมัยเนยเพื่อกราบไหว้ขอพรให้มีความสุขปลอดภัย อีกทั้งจะนำเมล็ดข้าวบาร์เลย์จากกล่องไม้มงคลโปรยขึ้นไปในอากาศ แลกผ้าฮาดา ดื่มเหล้าบาร์เลย์ ทักทายกันด้วย“ลั่วซ่าจ๋าซีเต๋อเล่อ”ความหมายคือในปีใหม่ขอให้โชคดีสมดั่งปราถนาทุกประการ เป็นคำทักทายที่พบกันบ่อยในช่วงปีใหม่ วันที่สองของปีใหม่ญาติสนิทมิตรสหายจะกล่าวสวัสดีปีใหม่ซึ่งกัน และต้อนรับแขกด้วยของกินใน“กล่องมงคล”แล้วทุกคนจะพากันไปที่ศูนย์ชุมชนเพลิดเพลินชมการแสดงร้องเพลงเต้นรำดั้งเดิมแบบทิเบต วันที่3ชาวทิเบตจะไปที่ภูเขาผูกผ้าหลากสีขอพรอธิษฐาน(ธงมนตราธวัช) และถวายเครื่องหอมที่ทำจากสมุนไพร

สมัยเป็นเด็กวันปีใหม่ตามปฎิทินจันทรคติทิเบตสำหรับฉันเป็นความทรงจำที่สวยงามมากที่สุด ปัจจุบันความหมายวันปีใหม่มีเพียงฉันอายุมากขึ้นอีกหนึ่งปีเท่านั้น ทำให้นึกถึงความไม่เที่ยงแท้ที่อยู่ในคำสอนทางพุทธศาสนา ในวันนี้ที่อยู่ห่างไกลจากบ้านเกิด แม้นว่าในไต้หวันจะไม่เห็นวันขึ้นปีใหม่แบบดั้งเดิมของทิเบต แต่สมาคมสวัสดิการเพื่อชาวทิเบตไต้หวันก็ได้จัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมชุมชนชาวทิเบตขึ้นในนครเถาหยวน เป็นสถานที่พบปะของชาวทิเบตในไต้หวันอีกทั้งยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมภาษาทิเบตอีกด้วย นอกจากมุ่งมั่นสืบสานวัฒนธรรมของชาวทิเบตในไต้หวันแล้ว นอกจากนี้ยังจะพัฒนาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมหลากหลายกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นมากขึ้น ฉันขอขอบคุณประชาชนและรัฐบาลไต้หวันสำหรับมิตรภาพและความสนับสนุน ทำให้วัฒนธรรมทิเบตสามารถพัฒนาสืบต่อไปในไต้หวัน