ข้ามไปที่บล็อกเนื้อหาหลัก

ปัญหาการเรียนรู้ที่บุตรธิดาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ประสบ...เด็กโตก่อนวัย

ไช่เฉาเซี่ยน หัวหน้าฝ่ายวิชาการโรงเรียนประถมศึกษาปินเจียง

 

เมื่อการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวและพลังการสนับสนุนขาดหายไปจะส่งผลต่อการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่ถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดจากครอบครัว ทำให้เกิดความกดดันจนกลายเป็นเด็กดื้อหรือไม่ก็เป็นเด็กอ่อนแอ  ก่อนอายุ3ขวบเด็กหญิงคนนี้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเวียดนาม มาถึงประเทศไต้หวันพูดภาษาจีนกลางไม่ได้ อย่างไรก็ตามภายใต้การดูแลเอาใจใส่จากปู่ย่า ในชั้นอนุบาลเด็กหญิงก็สามารถสื่อสารด้วยภาษาจีนกลางแต่กลับจำภาษาเวียดนามไม่ได้ เหตุผลสำคัญคือปู่ย่าไม่อนุญาตให้เด็กสื่อสารภาษาเวียดนามกับแม่


แม่สามีปฏิบัติต่อลูกสะใภ้อย่างไม่เป็นมิตรมาโดยตลอด เมื่อลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลพ่อแม่ก็หย่าร้างกัน ทางแม่สามีกีดกันไม่ให้แม่เด็กติดต่อกัน จนกระทั่งความทรงจำของแม่ที่มีนั้นค่อยๆลบเลือนหายไป ด้วยเหตุที่ปู่ย่าให้ความสำคัญต่อเพศชายมากกว่าเพศหญิง ดังนั้นการปฏิบัติในครอบครัวระหว่างพี่ชายและน้องสาวจึงมีความแตกต่างกันไป เรื่องเรียนก็มีการเปรียบเทียบกับพี่ชายที่มีการเรียนดีกว่า บวกกับน้องสาวมีปัญหาเรื่องสมาธิสั้นทำให้มีผลการเรียนที่ไม่ดี เพียงแค่ทำผิดนิดหน่อยปู่ย่าก็จะใช้วิธีการดุด่าว่ากล่าว ส่วนพี่ชายปกติก็ไม่สนใจใยดีน้องสาวอยู่แล้ว อย่าว่าแต่จะปกป้องน้องสาวเลย


น้องสาวที่โตก่อนวัยต้องการให้ปู่ย่าเห็นความสามารถ แต่ด้วยเหตุที่มีสมาธิสั้นไม่สามารถทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ ความกระตือรือร้นที่มีเพียงสามนาทีจึงเกิดความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ปู่ย่าจึงไม่คาดหวังในตัวหลานสาวนักในชีวิตประจำวันกลับเข้มงวดต่อเธอมากยิ่งขึ้น หลังเลิกเรียนหากปู่ย่าอนุญาตจึงจะออกนอกบ้านได้ ภายในบ้านต้องช่วยงานบ้าน ทำข้าวกล่องให้พี่ชาย ซักเสื้อผ้า ในโรงเรียนเด็กหญิงหวังว่าจะมีคนที่จะห่วงใยใส่ใจเธอ หลังเลิกเรียนมักจะเดินแวะเวียนไปมาแถวระเบียงทางเดินห้องเรียนของพี่ชาย และแสดงความรักที่มีต่อพี่ชั้นประถมปีที่หก พร้อมเขียนจดหมายรักส่งไปให้เสมอทำให้เด็กชายชั้นประถมปีที่หกตกใจ หลังเลิกเรียนจึงมักซ่อนตัวจากเด็กหญิง ภายในโรงเรียนจะเห็นเธอวิ่งฉันไล่ตามอยู่ตลอดเวลา พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนี้ได้รับการช่วยเหลือจากครูประจำชั้นและครูแนะแนวที่ให้ความห่วงใยดูแลช่วยให้เด็กหญิงเรียนรู้ทักษะการปฏิสัมพันธ์ต่อบุคคลอื่น


เพื่อให้เด็กหญิงสามารถทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้สำเร็จช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเธอ จึงแนะนำให้เด็กหญิงเข้าร่วมทีมแข่งขันอ่านบทความภาษาจีนหมิ่นหนาน ถึงแม้ว่าระหว่างการฝึกซ้อมจะทำความลำบากใจให้กับครูที่สอนไม่น้อย แต่ยังดีที่ครูยืนยันตั้งใจที่จะช่วยฝึกสอน ผ่านช่วงเวลาหนึ่งในที่สุดก็เห็นถึงความสำเร็จ ปู่ย่าเห็นความก้าวหน้าของหลานสาวจึงเป็นเวลาเหมาะสมที่จะสนทนากัน หวังว่าปู่ย่าจะอบรมสั่งสอนหลานชายหลานสาวอย่างมีเหตุผล อีกสิ่งหนึ่งที่บอกย้ำ การที่เด็กหญิงชอบอยู่ใกล้ชิดกับเด็กชายพี่ประถมหกเพียงต้องการใครสักคนที่จะอยู่เป็นเพื่อน หรือจากการขาดความรักการเอาใจใส่ดูแลจากพ่อแม่ จึงแนะนำให้ปู่ย่าใส่ใจดูแลการคบเพื่อนของหลานสาว อีกทั้งเพิ่มความรักความห่วงใยต่อตัวเธอให้มากขึ้น ให้เธอรู้สึกถึงความรักที่มีจากครอบครัว หลีกเลี่ยงเมื่อเธอเติบโตขึ้นต้องการรีบออกไปจากครอบครัว